วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2555

วิธีการจับคอร์ด(กีต้าร์)

การจับคอร์ดกีต้าร์


การจับคอร์ดถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเล่นกีต้าร์เลยก็ว่าได้ ในโลกนี้มีคอร์ดอยู่มากมายมหาสาร
มีผู้รู้ท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่าคอร์ดนั้นมีอยู่เป็นร้อยเป็นพันธ์เลยทีเดียว (โห้... ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ) ใครคิดวิธีจับแบบใหนได้ก็อาจจะเรียกเป็นคอร์ดใหม่เลยก็ได้ แต่อย่าพึ่งตกใจไปน่ะครับ คอร์ดหลักๆ นั้นมีอยู่แค่ 7 คอร์ดเท่านั้นเอง คือ A B C D E F และ G ส่วนที่เหลือนั้นก็จะเป็นพวกน้ำจิ๋มน้ำปลาทั้งนั้น

ในที่นี้ผมจะสอนวิธีการจับคอร์ดง่ายๆ และวิธีการดูคอร์ดจากรูปภาพ ซึ่งถ้าคุณรู้วิธีหล่าวนี้แล้ว คุณก็จะสามารถนำไปประยุคในการจับคอร์ดอื่นๆ ได้ เอาหละ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ

จากรูป เป็นคอกีต้าร์ในลักษณะหันหน้าเข้าหาตัว เส้นในแนวตั้งก็คือสายกีต้านั้นเอง โดยเลข 1 ที่กำกับอยู่ข้างบนก็คือสายที่ 1 หรือสายที่เล็กที่สุด ส่วนเลขหกก็คือสายที่ใหญ่ที่สุด

เส้นในแนวนอนก็คือเส้นขั้นระหว่างเฟร็ต โดยเฟร็ตบนสุดก็คือเฟร็ตที่ 1 และถัดลงมาก็คือเฟร็ตที่ 2, 3, 4 .... ไปเรื่อยๆ

ส่วนรูปด้านขวานี้ เป็นตัวอย่างของการจับคอร์ด C ซึ่งตัวเลขในลูกกลมๆ สีแดงก็คือนิ้วมือซ้ายนั้นเอง โดยรายละเอียดมีดังนี้

1 = นิ้วชี้ 2 = นิ้วกลาง 3 = นิ้วนาง 4 = นิ้วก้อย


ตัวเลขต่างๆ หล่าวนี้ที่จริงแล้วในตารางคอร์ดทั่วๆ ไปจะไม่มีกำกับไว้ ถ้าไม่มีแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าจับคอร์ดได้ถูกต้องหรือผิด? คำตอบก็คือไม่มีใครถูกใครผิดหรอกครับ เพราะการจับนั้นไม่ตายตัว ใครถนัดแบบใหนก็จับแบบนั้น แต่บางทีการจับให้ถูกต้องนั้นก็สำคัญเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นการจับคอร์ด G จากรูปจะเห็นว่าเราไม่จำเป็นที่จะต้องใช้นิ้วก้อย (เลข 4) ในการจับเลย เพราะนิ้วชิ้วเรายังว่างอยู่นิ หลายคนโดยเฉพาะมือใหม่ๆ ก็เลยใช้นิ้วชี้กดแทนนิ้วกลาง ส่วนนิ้วกลางก็เอาไปกดที่นิ้วนาง และนิ้วนางที่นิ้วก้อย ทำให้เราไม่ต้องใช้นิ้วก้อยเลย (ผมก็เคยจับแบบนี้มาตั้งนาน) ซึ่งดูเหมือนจะง่ายกว่าแบบแรกเยอะ เพราะมือใหม่ส่วนใหญ่จะไม่สันทัดกับการใช้นิ้วก้อยซักเท่าไหร

แต่ถ้าคุณเริ่มที่จะเล่นกีต้าร์เป็นแล้ว และคุณลองเล่นเพลงจากหนังสือเพลง คุณก็จะเจอกับคอร์ด Gsus4 ซึ่งจะต้องเปลี่ยนจากคอร์ด G ไปจับ Gsus4 (มันมักจะมาด้วยกัน) ซึ่งคุณจำเป็นมากที่จะต้องใช้นิ้วชี้ แต่นิ้วชี้คุณกลับใช้ไปแล้วซะนี่...

สรุปเลยละกันน่ะครับว่า การจับคอร์ดนั้นไม่ตายตัวเสมอไป แต่การจับให้ถูกหรือเหมาะสมก็เป็นสิ่งที่ควรทำครับ

ภาพคอร์ดกีต้าร์

การหัดไล่ scale (กีต้าร์)

การหัดไล่ scale กีต้าร์
ในการเล่นกีต้าร์นั้นนอกจากจะหัดจับคอร์ดแล้วนั้นที่สำคัญก็คือ

การหัดไล่สเกลล์ซึ่งการไล่สเกลล์นั้นเป็นพื้นฐานในการลีดกีต้าร์

ที่นักลีดกีต้าร์ทั้งหลายทำกันอยู่ก็มาจากการฝึกหัดไล่สเกลล์กัน

ทั้งนั้น การไล่สเกลล์นั้นเป็นการไล่นิ้วลงไปบนตัวโน๊ตของกีต้าร์

ซึ่งจะไล่แบบไหนนั้นก็แล้วแต่ผู้เล่นจะถนัดนั่นเองดังตัวอย่างตารางสเกลล์

วิธีการหัดเล่น(กีต้าร์)

วิธีการหัดเล่นกีต้าร์
ในการหัดเล่นกีต้าร์นั้นเราจะต้องรู้พื้นฐานในการจับคอร์ดเสียก่อน

ซึ่งจะจับคอร์ดได้นั้นตัองดูตามตารางคอร์ดกีต้าร์ดังนี้

บางคนอาจจะยังดูไม่เป็นสำหรับคนที่หัดเล่นใหม่ๆ แต่มัน

ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่หยิบกีต้าร์ขึ้นมาแล้วใช้นิ้วกด

ไปตามจุดที่อยู่บนเส้นกีต้าร์ตามรูปภาพ พอกดได้แล้วก็หมั่น

ฝึกกดอยู่บ่อยๆเพื่อที่จะเกิดการเคยชินจนสาสารถเล่นได้ในที่สุด

วิธีการอ่านแทป(กีต้าร์)

วิธีอ่านแทปแทป (Tab หรือ Tablature) คือ สัญลักษณ์ที่ใช้จดบันทึกเสียงทางดนตรี สำหรับเครื่องสายที่มีลักษณะคล้ายกีต้าร์ เช่น แบนโจ (Banjo) หรือ เบส (Bass) โดยแทป (Tab) นั้นได้พัฒนามาจากโน้ตดนตรีสากล แต่จะอ่านง่ายกว่า สามารถเข้าใจได้รวดเร็ว ทั้งยังบอกถึงตำแหน่งนิ้วบนคอกีต้าร์ได้ดีกว่าโน้ตดนตรีสากลอีกด้วย

แทป (Tab) มีวิธีการบันทึกได้ 2 แบบ คือ แทป (Tab) แบบมือขวา และ แทป (Tab) แบบมือซ้าย ขึ้นอยู่กับว่าต้องการให้ผู้อ่านนั้นได้รับรู้ถึงเรื่องอะไร

แทป (Tab) มือขวา บอกตำแหน่งของนิ้วมือขวาที่ใช้ดีดสายกีต้าร์ต่าง ๆ เพื่อให้ทราบว่าต้องดีดเส้นไหนบ้างหรือเกาสายกีต้าร์เส้นไหนบ้าง รูปแบบใด
แทป (Tab) มือซ้าย บอกวิธีการจับคอร์ดว่าต้องจับอย่างไรบ้าง เนื่องจากบางเพลงอาจจะต้องจับคอร์ดที่ยากกว่าปกติ หรือเป็นลูกเ่ล่นเพิ่มเติมในการเกาหรือดีดเพลงนั้น ๆ และเพลงที่เน้นการวางนิ้วมือบนคอกีต้าร์และการเคลื่อนที่ของนิ้วมือซ้าย ตามอารมณ์ของเพลงนั้น ๆ เช่น เพลงคลาสสิค เพลงบรรเลงด้วยกีต้าร์

ตัวอย่างโน้ตแทป

C D
---------------------------------------2-------------- สายที่ 1 ของกีต้าร์ หรือสายล่างสุด (เสียงแหลมสุด)
------------1-----1--------------2---------2--------- สายที่ 2 ของกีต้าร์
---------0-----0-----0--------3----3----3----3------ สายที่ 3 ของกีต้าร์
------2---------------------0------------------------- สายที่ 4 ของกีต้าร์
---3-------------------------------------------------- สายที่ 5 ของกีต้าร์
------------------------------------------------------ สายที่ 6 ของกีต้าร์ หรือสายบนสุด (เสียงทุ้มสุด)

จากตัวอย่างข้างบนการอ่านโน้ตแทปก็คือ ให้ดูจากคอร์ดด้านบนก่อนว่าเป็นคอร์ดอะไร ให้จับคอร์ดตามนั้น

จากนั้นตัวเลขที่เห็นก็คือ เฟรตหรือช่องบนคอกีต้าร์ที่ใช้นิ้วกดลงไป ซึ่งหากตัวเลขอยู่บนสายไหนก็ให้ดีดสายนั้นๆ
จากตัวอย่าง เลข 3 อยู่บนสายที่ 5 ให้กดเฟรตที่ 3 ของสายที่ 5 และดีดสายที่ 5 เป็นอันจบโน้ตตัวแรก
ตัวถัดไปเป็นเลข 2 ให้กดเฟรตที่ 2 ของสายที่ 4 และดีดสายที่ 4 ก็จะจบโน้ตตัวที่ 2 หากเป็นเลข 0 ก็คือดีดสายเปล่าๆ โดยไม่ต้องกดอะไรเลย

เป็นไงบ้างครับเพื่อนๆ คงไม่ยากสำหรับมือใหม่นะครับ ยังไงก็ลองฝึกแกะแทปจากเพลงช้าๆ แนวอคูสติคกันดูนะครับ ค่อยๆ ฝึกกันครับ ถ้าเพื่อนๆ เล่นแทปกันคล่องแล้ว เดี๋ยวผมจะหาแทปมาลงในเว็บให้เยอะๆ ครับ ส่วนการถามตอบก็ไว้ไปถามกันบนเว็บบอร์ดได้เลยนะครับ เผื่อว่าจะมีเพื่อนๆ ท่านอื่นๆ เข้ามาตอบกันครับ

ประเภทของกีต้าร์

ประเภทของกีตาร์

     ตามที่เรา ๆ ท่าน ๆ นั้น จะรู้กันอยู่แล้วว่ากีตาร์นั่นก็มีอยู่สองแบบคือ กีตาร์โปร่ง กับกีตาร์ไฟฟ้า แต่ว่าเราลองมารู้จักกีตาร์ในแต่ละประเภทกันให้มากกว่านี้ดีกว่า (ถ้ารูปไม่โชว์ ให้ลองคลิ๊กเม้าส์ขวา แล้วกด show picture นะครับ)
     1. กีตาร์โปร่ง หรือ อาคูสติกกีตาร์ นั่นเอง ก็คือกีตาร์ที่มีลำตัวโปร่งไม่ต้องอาศัยไฟฟ้าในการเล่น ซึ่งสามารถที่จะพกพาไปเล่นได้ในทุก ๆ ที่ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรให้วุ่นวาย สามารถแบ่งได้ดังนี้
          1.1 กีตาร์คลาสสิก (Classic Guitar) ซึ่งถือว่าเป็นต้นแบบของกีตาร์ในยุคปัจจุบันนั่นเองซึ่งมีลักษณะเด่นก็คือมีลูกบิดและแกนพันสายเป็นพลาสติก มีคอหรือฟิงเกอร์บอร์ดที่ใหญ่คือประมาณ 2 นิ้วลักษณะแบนราบ และใช้สายเอ็นหรือไนล่อน ส่วน 3 สายบน(สายเบส) จะทำด้วยไนล่อนหรือใยไหมแล้วพันด้วยเส้นโลหะเช่นเส้นทองแดงหรือบรอนซ์ ซึ่งทำให้มีความนุ่มมือเวลาเล่นไม่เจ็บเหมือน สายโลหะ จึงเหมาะกับคนที่อยากหัดกีตาร์แต่กลัวเจ็บนิ้ว
          กีตาร์อีกอย่างที่อยากกล่าวถึงในหัวข้อกีตาร์คลาสสิกคือ กีตาร์ ฟลาเมนโก (flamenco) ซึ่งมีโครงสร้างแทบจะเหมือนกับกีตาร์คลาสสิกทุกประการเนื่องจากได้มีการพัฒนามาจากกีตาร์คลาสสิกนั่นเอง จะต่างกันก็ที่ลำตัวจะบางกว่า และมีปิคการ์ดทั้งด้านบนล่างของโพรงเสียง และสไตล์การเล่นนั่นเองที่จะเป็นแบบสแปนนิสหรือแบบลาตินซึ่งจะมีจังหวะที่ค่อนข้างกระชับและสนุกสนาน
ด้วยเหตุที่ใช้สายไนล่อนนั่นเองทำให้กีตาร์คลาสิกมีเสียงที่ไพเราะนุ่มนวลและคอที่กว้างทำให้ระยะระหว่างสายก็มากขึ้นไปด้วย ซึ่งทำให้การเล่นกีตาร์คลาสสิคนั้นจะสามารถเล่นได้ทั้งการ solo เล่น chord แล่ bass ได้นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคนิคลูกเล่นต่าง ๆ อีกมากมาย ทำให้การเล่นกีตาร์คลาสสิกนั้นมีความไพเราะมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ง่ายนักนะครับกว่าจะเล่นได้อย่างที่ว่า นอกจากจะได้ไปเรียนอย่างเป็นจริงเป็นจังกับโรงเรียนดนตรี

วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2555

สตาฟ์โค้ช(อาร์เซนอล)

สตาฟฟ์โค้ชและเจ้าหน้าที่ชุดปัจจุบัน

PositionName
ผู้จัดการทีมอาร์แซน เวนเกอร์
ผู้ช่วยผู้จัดการทีมแพท ไรซ์
โค้ชทีมชุดใหญ่โบโร ไพรโมแรค
โค้ชทีมสำรองนีล แบนฟิลด์
โค้ชผู้รักษาประตูเกอร์รี เพย์ตัน
นักกายภาพบำบัดโคลิน เลวิน
ผู้จัดการเครื่องแต่งกายผู้เล่นวิค เอเคอร์ส
ผู้ช่วยผู้จัดการเครื่องแต่งกายผู้เล่นพอล เอเคอร์ส
โค้ชฟิตเนสโทนี่ โคลเบิร์ต
ผู้ช่วยโค้ชฟิตเนส/หมอนวดเคร็ก แกนท์
หมอนวดโคจอห์น เคลลี่
หัวหน้าแมวมองสตีฟ โรว์ลี่ย์
แพทย์สนามโจเอล แฮริส
ผู้จัดการด้านอุปกรณ์พอล จอห์นสัน
หัวหน้าศูนย์เยาวชน

สนามการแข่งขัน(อาร์เซนอล)



อาร์เซนอล
ก่อตั้ง : คศ.1886
ชื่อเดิม : 1886 Dial Squares ( ไดอัล สแควร์ ) แล้วเปลี่ยนเป็น " Royal Arsenal " ในปีเดียวกัน
: 1891 Woolwich Arsenal ( วูลลิช อาร์เซนอล )
: 1914 Arsenal (อาร์เซนอล) จนถึงปัจจุบัน
ชื่อเล่น : The Gunners ( ปืนใหญ่ )
ที่ตั้งปัจจุบัน : Arsenal Stadium , Highbury , London , N 5 1 BU
โทรศัพท์ : ( 0171 ) 704 4000
ประธานสโมสร : ปีเตอร์ ฮิลล์วู้ด
รองประธานสโมสร : เดวิด ดีน
ผู้จัดการทีม : อาร์เซน เวนเกอร์
ผู้ช่วยผู้จัดการทีม : แพต ไรซ์
สนามเหย้าปัจจุบัน : ไฮบิวรี่ ( ความจุผู้ชม 38,500 คน )
ขนาดสนาม : 110 หลา คูณ 73 หลา
สนามเดิม : 1886 Plumstead Stadium , 1887 Sportmans Ground , 1888 Manor Road
1890 Invicta Ground , Manor Road , 1914 Highbury - ถึงปัจจุบัน
ชุดแข่งเหย้า : เสื้อสี แดง แขน ขาว, กางเกง ขาว ขลิบแดง ถุงเท้าแดง ขลิบขาว
ชุดแข่งเยือน : เสื้อสี น้ำเงิน - เหลือง กางเกงน้ำเงิน ถุงเท้า น้ำเงิน และ เหลือง
สถิติผู้ชมสูงสุด : 73,295 คน พบ ซันเดอร์แลนด์ ดิวิชั่น 1 (เดิม) 9 มีค. 1935